ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียจัดว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยความที่ภาพยนตร์อินเดียจะมีกลิ่นอายที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่านี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องการจะนำเสนอให้กับคนทั้งโลกได้เห็น ถึงขนาดว่าพวกเขาเรียกอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างภาคภูมิใจว่าบอลลีวูด มันจึงไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ภาพยนตร์อินเดียสามารถก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักได้อย่างทุกวันนี้ พร้อมทั้งส่งให้นักแสดงหลายคนแจ้งเกิดไปตามๆ กัน เช่นเดียวกับ Alia Bhatt
ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเธออย่าง Badrinath Ki Dulhania คือภาพยนตร์ที่ต้องบอกว่ากำลังเป็นกระแสแบบสุดๆ แห่งวงการภาพยนตร์อินเดียในเวลานี้ นำแสดงโดย 2 นักแสดงชื่อดังแห่งยุคอย่าง Alia Bhatt กับ Varun Dhawan ในเวลานี้กำลังทำรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศอินเดียอย่างถล่มทลาย โดยต้องบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ชมอย่างแพร่หลาย เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงก็ไม่ผิด ถึงกระนั้นก็ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจแถมยังทำให้วงการภาพยนตร์อินเดียถอยหลังลงคลองอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทาง Alia ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงความรู้ของเธอว่า “ฉันไม่ใช่คนที่เกลียดชังในเรื่องของคำวิจารณ์หรือคำติชม ยินดีที่จะรับฟังทุกคำวิจารณ์ แต่ในความเป็นจริงก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมค่อนข้างที่จะเป็นเอกฉันท์ ทว่ามีเพียงกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้นได้พูดอะไรที่มันดูแตกต่างออกไปจากสิ่งที่คุณได้คิดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นเป็นวิธีการของพวกเขา แต่ฉันเองก็จะไม่ไปบอกว่าพวกเขาควรจะต้องรู้สึกอย่างไร ทว่าการที่คนส่วนใหญ่ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า”
นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วตัวของ Alia Bhatt ยังไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของกองเซนเซอร์อินเดียถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการตัดภาพยนตร์หลายเรื่องหรือฉากหลายฉากเพื่อไม่ให้มีเกิดขึ้นอันเป็นผมมาจากพวกเขามองว่ามันไม่เหมาะสม เหตุผลที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยมันก็มาจากผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Udta Punjab ที่เธอร่วมแสดงตัดสินใจยื่นเรื่องฟ้องเพื่อให้ศาลทำการพิจารณา หลังจากที่ภาพยนตร์ของพวกเขามีปัญหากับกองเซนเซอร์อินเดียโดยกองเซนเซอร์ได้สั่งตัดเนื้อหาของพวกเขาออกไปถึง 13 ฉาก นอกจากนี้ยังสั่งให้มีการเปลี่ยนชื่อเรื่องเพื่อการฉายทางภาคเหนือของอินเดียโดยเฉพาะ มีการคาดการณ์กันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เพื่อต้องการปกป้องรัฐบาลท้องถิ่นเนื่องจากฉากที่ถูกตัดออกไปล้วนแล้วแต่เป็นฉากที่เชื่อกันว่าอาจทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาลก็เป็นได้ ล่าสุดศาลที่รับเรื่องนี้ไว้ก็มีคำตัดสินให้ตัดออกเพียงฉากเดียวเท่านั้น